สวัสดีครับทุกคน วันนี้ทางเราได้ฤกษ์งามยามดีที่จะพูดถึง สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก realme ที่เพิ่งเปิดตัวกันไปแบบสดๆ ร้อนๆ อย่าง realme 5...
สวัสดีครับทุกคน วันนี้ทางเราได้ฤกษ์งามยามดีที่จะพูดถึงสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก realme ที่เพิ่งเปิดตัวกันไปแบบสดๆ ร้อนๆ อย่าง realme 5 Series แต่วันนี้เรามี realme 5 Pro มาอยู่ในมือ และได้นำไปใช้งานเป็นที่เรียบร้อย ต้องบอกก่อนว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกจาก realme ที่มีกล้องหลังถึง 4 ตัว (48MP Quad Camera) บวกกับสเปคที่แรงควบคู่กันไป ตามสโลแกนที่ว่า "4 เลนส์ สเปคแรง" อีกทั้งแบตเตอรี่ยังมีความอึดไม่แพ้ใคร และยังมาพร้อมกับระบบชาร์จไว (VOOC Flash Charge 3.0) ในเรทราคาระดับเดียวกันอีกด้วย ดังนั้นพวกเราจะรอช้ากันอยู่ทำไม ไปรับชมรีวิวกันได้เลยครับ
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเครื่อง realme 5 Pro
- เคสแบบใสสีเทาดำ
- ฟิล์มกันรอยแบบใสติดมาให้กับตัวเครื่อง
- คู่มือแนะนำการใช้งานและใบรับประกัน
- เข็มจิ้มซิม
- สายชาร์จแบบ Micro USB Type C
- อะแดปเตอร์สำหรับชาร์จไฟ 5V/4A (VOOC Flash Charge 3.0)
สเปค realme 5 Pro
- หน้าจอ IPS LCD ดีไซน์หยดน้ำขนาด 6.3 นิ้ว, ความละเอียด FHD+, อัตราส่วนหน้าจอ 19.5:9, ป้องกันรอยขีดข่วนด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3+
- CPU : Qualcomm Snapdragon 712 AIE
- GPU : Adreno 616
- RAM : 8GB (LPDDR4X)
- ROM : 128GB (UFS 2.1)
- กล้องหน้า 16MP(Sony IMX471), f/2.0, AI Beauty, AI HDR
- กล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 48MP Ultra HD(Sony IMX 586), f/1.79, กล้องเลนส์ Super Wide Angle 119° 8MP, f/2.25, กล้องเลนส์ Portrait/ Depth Sensor 2MP, f/2.4, กล้องเลนส์ Macro 2MP, f/2.4 ถ่ายมาโครได้ใกล้สุด 4 ซม. (สามารถถ่าย Super Nightscape ได้ทั้งกล้องหลักและกล้อง Super Wide Angle)
- รองรับการสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังของตัวเครื่อง (Fingerprint Scanner)
- รองรับการสแกนใบหน้า (Face Unlock)
- ตัวเครื่องออกแบบมาเพื่อป้องกันน้ำกระเซ็น
- ระบบการจัดการความร้อน
- ระบบความปลอดภัยพิเศษที่มากถึง 3 ชั้น ป้องกันแบตเตอรี่ร้อน แบตละลาย และแบตระเบิดตั้งแต่หัวชาร์จไปยังแบตเตอรี่
- มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
- รองรับการชาร์จแบบ Type-C ชาร์จ 1 ชั่วโมงพร้อมกับเล่นเกม แบตเตอรี่เพิ่มถึง 43% และชาร์จ 1.38 ชั่วโมง แบตเตอรี่เต็ม 100%
- แบตเตอรี่ความจุ 4035 มิลลิแอมป์ พร้อม VOOC Flash charging 3.0
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 6.0 บน Android 9 Pie
รูปลักษณ์และดีไซน์
ตัวเครื่องของ realme 5 Pro นั้นมีที่ดีไซน์หรูหราและสวยงาม ด้านหน้าของเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอดีไซน์ทรงหยดน้ำที่สวยงามเฉพาะแบบ หน้าจอเป็น IPS LCD ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ที่มีคมชัดมากกว่าเดิม มีความหน้าแน่นของพิกเซล 409 PPI มีอัตราส่วนหน้าจออยู่ที่ 19.5:9 มีพื้นที่ของหน้าจอทั้งหมด 90.6% ครอบทับด้วยกระจกกันรอยขีดข่วน Corning Gorilla Glass 3+
ในส่วนของดีไซน์ทรงหยดน้ำตรงกลางที่ด้านบนเครื่องนั้นจะมีกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.0 ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471 และเซนเซอร์ต่างๆ กล้องหน้าสามารถแบ่งเพศและวัยได้ แม้ในตอนถ่ายภาพหมู่ด้วยระบบอัจฉริยะ AI Beauty และ AI HDR มาพร้อมกับจุดจดจำที่มากถึง 296 จุด สามารถปรับแต่งความสวยงามตามเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล อีกทั้งกล้องหน้ายังสามารถใช้สำหรับการสแกนเพื่อปลดล็อคด้วยใบหน้า (Face Unlock) และมีไมค์สำหรับตัดเสียงรบกวนอยู่ทางด้านบนขวาของตัวเครื่องอีก 1 ตัว
ต่อมาพลิกมาดูที่ด้านหลังของตัวเครื่อง realme 5 Pro กันบ้าง ดีไซน์ฝาหลังของรุ่นนี้จะเป็นดีไซน์ฝาหลังแบบ Holographic Diamond ที่มีความเป็นประกายของสีสันที่สดใสในระดับนาโน มีการเคลือบกว่า 133 ครั้งเพื่อให้ได้สีที่สวยงาม และใช้เทคโนโลยีการแกะสลักฝาหลังขนาดไมครอนลากยาวในรูปแบบ 3D Diamond Cutting ที่เป็น DNA ซึ่งเป็นเอกลักษณ์พิเศษของ realme และการดีไซน์นี้ยังสามารถช่วยป้องกันละอองน้ำได้
ด้านซ้ายข้างหลังตัวเครื่อง realme 5 Pro มีแฟลชและมีกล้องหลังที่มีเลนส์ถึง 4 ตัวด้วยกัน ซึ่งเลนส์ต่างๆ จะประกอบไปด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/1.79 ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX586 สามารถถ่ายภาพคมชัดในระดับ Ultra HD ทำให้ภาพคมชัดทุกรายละเอียด
- กล้องเลนส์ Super Wide-Angle 119° ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.2
- กล้องเลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.4
- กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.4
(ทั้งเลนส์หลักและเลนส์ Super Wide-Angle 119° สามารถใช้งานในโหมดถ่ายภาพกลางคืน (Super Nightscape) ได้ ถัดลงมาด้านล่างของกล้องถ่ายรูปจะเป็นปุ่น Power สำหรับการเปิดและปิดเครื่อง
ถัดมาจะเป็นทางด้านซ้ายมือด้านหน้าของตัวเครื่องจะมีปุ่มสำหรับเพิ่มเสียง-ลดเสียง (Volume Up/ Volume Down) มีช่องสำหรับใส่ SIM Card แบบ Triple Slot ซึ่งสามารถใส่ SIM แบบ nanoSIM ได้ 2 ช่อง และสามารถใส่ micro SD Card เพิ่มได้ถึง 256GB อีก 1 ช่อง
ด้านล่างตัวเครื่อง realme 5 Pro จะประกอบไปด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ไมค์สำหรับการสนทนา 1 ตัว พอร์ตการเชื่อมต่อสำหรับการชาร์จที่รองรับการชาร์จไว (VOOC Flash Charge 3.0) การถ่ายโอนข้อมูลแบบ USB Type C และช่องลำโพงเสียง
ประสิทธิภาพการทำงาน
realme 5 Pro มาพร้อมกับ CPU Qualcomm Snapdragon 712 AIE และเพิ่มด้วย Octa-Core ที่มาช่วยเสริมความแรงมากกว่าเดิมโดยประมวลผลความเร็วได้ถึง 2.3GHz สามารถเทียบเคียงกับ Hexagon 685 DSP ของสมาร์ทโฟนระดับตัวท็อปได้ และเพิ่มพื้นที่การประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วย Octa-Core 10 nm. ทำให้แบตเตอรี่ใช้พลังงานได้ยาวนานกว่าเดิม ส่วน GPU Adreno 616 ประมวลผลกราฟฟิคได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 35% เมื่อเทียบกับ Snapdragon 710 AIE มาพร้อมกับ AI generation 3 อัพเกรดรุ่นใหม่ล่าสุด ที่สามารถประหยัดพลังงานมากขึ้นถึง 60% เมื่อเทียบกับ Adreno 660 และเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้ RAM แบบ LPDDR4x และ ROM แบบ UFS 2.1 ทำให้สามารถใช้พื้นที่ลดลงได้ถึง 17% มีประสิทธิภาพเร็วกว่าเดิม และลดการใช้พลังงานถึง 35% เมื่อเทียบกับ EMMC
สำหรับผลการทดสอบคะแนน Geekbench ของ CPU Qualcomm Snapdragon 712 AIE นั้นทำไปได้ค่อนค้างดีเลยทีเดียว โดยมีคะแนนในส่วนของ Single-Core อยู่ที่ 1873 คะแนน และคะแนนในส่วนของ Multi-Core ทำไปได้ถึง 4711 คะแนน ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนที่ค่อนข้างสูงสำหรับสมาร์ทโฟนในเรทราคาระดับนี้
***หมายเหตุ คะแนนการทดสอบของละคนจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง
ผลการทดสอบคะแนนจาก Antutu Benchmark ของ CPU Qualcomm Snapdragon 712 AIE ใน realme 5 Pro นั้นทำไปได้ถึง 176715 คะแนน โดยจะแบ่งเป็นหมวดหมู่ดังนี้
- CPU ทำได้ 66034 คะแนน
- GPU ทำได้ 55378 คะแนน
- UX ทำได้ 46460 คะแนน
- MEM ทำได้ 8843 คะแนน
ซึ่งถือว่าคะแนนดังก่าวนั้นทำออกมาได้ค่อนข้างสูงและน่าประทับอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนในเรทราคาเดียวกัน
***หมายเหตุ คะแนนการทดสอบของละคนจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง
ทดสอบการเล่นเกม
สำหรับการทดสอบการเล่นเกม PUBG Mobile ซึ่งเป็นเกมยอดฮิตอันดับต้นๆ ของเมืองไทย จากการทดสอบนั้นตอนเข้าเกมในช่วงแรก สมาร์ทโฟน realme 5 Pro ก็มีการตั้งค่ามาให้ที่ระดับสูงตั้งแต่เริ่มต้น และสามารถปรับกราฟิกได้สูงสุดที่ระดับ HD และสามารถปรับความลื่นไหลของเฟรมเรทได้ที่ระดับสูง
ต่อมาจะเป็นในส่วนของเกม ROV : Realm of Valor ที่เป็นเกมยอดฮิตอีกเกมนึงของคนไทยเช่นกัน realme 5 Pro นั้นสามารถปรับกราฟิกได้ในระดับสูงมาให้ตั้งแต่เริ่มต้น และยังสามารถเปิดการใช้งานภาพแบบ HD และโหมดเฟรมเรทสูงได้เช่นกัน จากที่ได้ลองเล่นมาในหมวด 5 vs 5 ก็ทำให้พบว่ามีการแสดงผลของเฟรมเรทที่ค่อนข้างนิ่งเลยทีเดียว โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 55-60 FPS
สิ่งสำคัญที่ช่วยให้การเล่นเกมนั้นดีขึ้น ลื่นขึ้นก็คงต้องยกให้ Hyper Boost 2.0 ซึ่งประกอบไปด้วย
- FrameBoost : เมื่อเปรียบเทียบกับการเล่นเกม PUBG เฟรมเรทมีความสเถียรเพิ่มขึ้นถึง 26.8%
- TouchBoost : พัฒนาในการตอบสนองต่อการสัมผัสไวขึ้น 34.9% และเมื่อเทียบกับ PUBG มีการตอบสนองต่อการสัมผัสที่ดีกว่าเดิม 21.6%
- GameBoost : ช่วยรีดประสิทธิภาพและความเร็วในการเล่นเกมให้ดียิ่งขึ้น
Game Space
Game Space เป็นโฟลเดอร์รวมเกมในเครื่อง ถ้าหากผู้ใช้ตั้งค่าให้ระบบเพิ่มเกมเข้ามาในโฟลเดอร์นี้โดยอัตโนมัติ หรือผู้ใช้สั่งเพิ่มเข้ามาเอง เมื่อเปิดเกมจากในโฟลเดอร์นี้ ระบบจะจัดการเคลียร์แรม รวมถึงปรับการทำงานด้านกราฟิกและการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้เหมาะสมกับการเล่นเกมมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ดี นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการตั้งค่าให้บล็อกการแจ้งเตือน ตั้งค่าล็อกระดับแสงสว่างหน้าจอ และสามารถเร่งประสิทธิภาพการประมวลผลได้จากใน Game Space
-:- ประสิทธิภาพกล้องถ่ายรูป -:-
ตัวอย่างภาพถ่าย
Normal
- ตัวเครื่อง realme 5 Pro
- เคสแบบใสสีเทาดำ
- ฟิล์มกันรอยแบบใสติดมาให้กับตัวเครื่อง
- คู่มือแนะนำการใช้งานและใบรับประกัน
- เข็มจิ้มซิม
- สายชาร์จแบบ Micro USB Type C
- อะแดปเตอร์สำหรับชาร์จไฟ 5V/4A (VOOC Flash Charge 3.0)
สเปค realme 5 Pro
- หน้าจอ IPS LCD ดีไซน์หยดน้ำขนาด 6.3 นิ้ว, ความละเอียด FHD+, อัตราส่วนหน้าจอ 19.5:9, ป้องกันรอยขีดข่วนด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3+
- CPU : Qualcomm Snapdragon 712 AIE
- GPU : Adreno 616
- RAM : 8GB (LPDDR4X)
- ROM : 128GB (UFS 2.1)
- กล้องหน้า 16MP(Sony IMX471), f/2.0, AI Beauty, AI HDR
- กล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 48MP Ultra HD(Sony IMX 586), f/1.79, กล้องเลนส์ Super Wide Angle 119° 8MP, f/2.25, กล้องเลนส์ Portrait/ Depth Sensor 2MP, f/2.4, กล้องเลนส์ Macro 2MP, f/2.4 ถ่ายมาโครได้ใกล้สุด 4 ซม. (สามารถถ่าย Super Nightscape ได้ทั้งกล้องหลักและกล้อง Super Wide Angle)
- รองรับการสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังของตัวเครื่อง (Fingerprint Scanner)
- รองรับการสแกนใบหน้า (Face Unlock)
- ตัวเครื่องออกแบบมาเพื่อป้องกันน้ำกระเซ็น
- ระบบการจัดการความร้อน
- ระบบความปลอดภัยพิเศษที่มากถึง 3 ชั้น ป้องกันแบตเตอรี่ร้อน แบตละลาย และแบตระเบิดตั้งแต่หัวชาร์จไปยังแบตเตอรี่
- มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
- รองรับการชาร์จแบบ Type-C ชาร์จ 1 ชั่วโมงพร้อมกับเล่นเกม แบตเตอรี่เพิ่มถึง 43% และชาร์จ 1.38 ชั่วโมง แบตเตอรี่เต็ม 100%
- แบตเตอรี่ความจุ 4035 มิลลิแอมป์ พร้อม VOOC Flash charging 3.0
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 6.0 บน Android 9 Pie
รูปลักษณ์และดีไซน์
ตัวเครื่องของ realme 5 Pro นั้นมีที่ดีไซน์หรูหราและสวยงาม ด้านหน้าของเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอดีไซน์ทรงหยดน้ำที่สวยงามเฉพาะแบบ หน้าจอเป็น IPS LCD ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ที่มีคมชัดมากกว่าเดิม มีความหน้าแน่นของพิกเซล 409 PPI มีอัตราส่วนหน้าจออยู่ที่ 19.5:9 มีพื้นที่ของหน้าจอทั้งหมด 90.6% ครอบทับด้วยกระจกกันรอยขีดข่วน Corning Gorilla Glass 3+
ในส่วนของดีไซน์ทรงหยดน้ำตรงกลางที่ด้านบนเครื่องนั้นจะมีกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.0 ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471 และเซนเซอร์ต่างๆ กล้องหน้าสามารถแบ่งเพศและวัยได้ แม้ในตอนถ่ายภาพหมู่ด้วยระบบอัจฉริยะ AI Beauty และ AI HDR มาพร้อมกับจุดจดจำที่มากถึง 296 จุด สามารถปรับแต่งความสวยงามตามเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล อีกทั้งกล้องหน้ายังสามารถใช้สำหรับการสแกนเพื่อปลดล็อคด้วยใบหน้า (Face Unlock) และมีไมค์สำหรับตัดเสียงรบกวนอยู่ทางด้านบนขวาของตัวเครื่องอีก 1 ตัว
ต่อมาพลิกมาดูที่ด้านหลังของตัวเครื่อง realme 5 Pro กันบ้าง ดีไซน์ฝาหลังของรุ่นนี้จะเป็นดีไซน์ฝาหลังแบบ Holographic Diamond ที่มีความเป็นประกายของสีสันที่สดใสในระดับนาโน มีการเคลือบกว่า 133 ครั้งเพื่อให้ได้สีที่สวยงาม และใช้เทคโนโลยีการแกะสลักฝาหลังขนาดไมครอนลากยาวในรูปแบบ 3D Diamond Cutting ที่เป็น DNA ซึ่งเป็นเอกลักษณ์พิเศษของ realme และการดีไซน์นี้ยังสามารถช่วยป้องกันละอองน้ำได้
ด้านซ้ายข้างหลังตัวเครื่อง realme 5 Pro มีแฟลชและมีกล้องหลังที่มีเลนส์ถึง 4 ตัวด้วยกัน ซึ่งเลนส์ต่างๆ จะประกอบไปด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/1.79 ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX586 สามารถถ่ายภาพคมชัดในระดับ Ultra HD ทำให้ภาพคมชัดทุกรายละเอียด
- กล้องเลนส์ Super Wide-Angle 119° ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.2
- กล้องเลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.4
- กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.4
(ทั้งเลนส์หลักและเลนส์ Super Wide-Angle 119° สามารถใช้งานในโหมดถ่ายภาพกลางคืน (Super Nightscape) ได้ ถัดลงมาด้านล่างของกล้องถ่ายรูปจะเป็นปุ่น Power สำหรับการเปิดและปิดเครื่อง
ถัดมาจะเป็นทางด้านซ้ายมือด้านหน้าของตัวเครื่องจะมีปุ่มสำหรับเพิ่มเสียง-ลดเสียง (Volume Up/ Volume Down) มีช่องสำหรับใส่ SIM Card แบบ Triple Slot ซึ่งสามารถใส่ SIM แบบ nanoSIM ได้ 2 ช่อง และสามารถใส่ micro SD Card เพิ่มได้ถึง 256GB อีก 1 ช่อง
ด้านล่างตัวเครื่อง realme 5 Pro จะประกอบไปด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ไมค์สำหรับการสนทนา 1 ตัว พอร์ตการเชื่อมต่อสำหรับการชาร์จที่รองรับการชาร์จไว (VOOC Flash Charge 3.0) การถ่ายโอนข้อมูลแบบ USB Type C และช่องลำโพงเสียง
ประสิทธิภาพการทำงาน
realme 5 Pro มาพร้อมกับ CPU Qualcomm Snapdragon 712 AIE และเพิ่มด้วย Octa-Core ที่มาช่วยเสริมความแรงมากกว่าเดิมโดยประมวลผลความเร็วได้ถึง 2.3GHz สามารถเทียบเคียงกับ Hexagon 685 DSP ของสมาร์ทโฟนระดับตัวท็อปได้ และเพิ่มพื้นที่การประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วย Octa-Core 10 nm. ทำให้แบตเตอรี่ใช้พลังงานได้ยาวนานกว่าเดิม ส่วน GPU Adreno 616 ประมวลผลกราฟฟิคได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 35% เมื่อเทียบกับ Snapdragon 710 AIE มาพร้อมกับ AI generation 3 อัพเกรดรุ่นใหม่ล่าสุด ที่สามารถประหยัดพลังงานมากขึ้นถึง 60% เมื่อเทียบกับ Adreno 660 และเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้ RAM แบบ LPDDR4x และ ROM แบบ UFS 2.1 ทำให้สามารถใช้พื้นที่ลดลงได้ถึง 17% มีประสิทธิภาพเร็วกว่าเดิม และลดการใช้พลังงานถึง 35% เมื่อเทียบกับ EMMC
สำหรับผลการทดสอบคะแนน Geekbench ของ CPU Qualcomm Snapdragon 712 AIE นั้นทำไปได้ค่อนค้างดีเลยทีเดียว โดยมีคะแนนในส่วนของ Single-Core อยู่ที่ 1873 คะแนน และคะแนนในส่วนของ Multi-Core ทำไปได้ถึง 4711 คะแนน ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนที่ค่อนข้างสูงสำหรับสมาร์ทโฟนในเรทราคาระดับนี้
***หมายเหตุ คะแนนการทดสอบของละคนจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง
ผลการทดสอบคะแนนจาก Antutu Benchmark ของ CPU Qualcomm Snapdragon 712 AIE ใน realme 5 Pro นั้นทำไปได้ถึง 176715 คะแนน โดยจะแบ่งเป็นหมวดหมู่ดังนี้
- CPU ทำได้ 66034 คะแนน
- GPU ทำได้ 55378 คะแนน
- UX ทำได้ 46460 คะแนน
- MEM ทำได้ 8843 คะแนน
ซึ่งถือว่าคะแนนดังก่าวนั้นทำออกมาได้ค่อนข้างสูงและน่าประทับอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนในเรทราคาเดียวกัน
***หมายเหตุ คะแนนการทดสอบของละคนจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง
ทดสอบการเล่นเกม
สำหรับการทดสอบการเล่นเกม PUBG Mobile ซึ่งเป็นเกมยอดฮิตอันดับต้นๆ ของเมืองไทย จากการทดสอบนั้นตอนเข้าเกมในช่วงแรก สมาร์ทโฟน realme 5 Pro ก็มีการตั้งค่ามาให้ที่ระดับสูงตั้งแต่เริ่มต้น และสามารถปรับกราฟิกได้สูงสุดที่ระดับ HD และสามารถปรับความลื่นไหลของเฟรมเรทได้ที่ระดับสูง
ต่อมาจะเป็นในส่วนของเกม ROV : Realm of Valor ที่เป็นเกมยอดฮิตอีกเกมนึงของคนไทยเช่นกัน realme 5 Pro นั้นสามารถปรับกราฟิกได้ในระดับสูงมาให้ตั้งแต่เริ่มต้น และยังสามารถเปิดการใช้งานภาพแบบ HD และโหมดเฟรมเรทสูงได้เช่นกัน จากที่ได้ลองเล่นมาในหมวด 5 vs 5 ก็ทำให้พบว่ามีการแสดงผลของเฟรมเรทที่ค่อนข้างนิ่งเลยทีเดียว โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 55-60 FPS
สิ่งสำคัญที่ช่วยให้การเล่นเกมนั้นดีขึ้น ลื่นขึ้นก็คงต้องยกให้ Hyper Boost 2.0 ซึ่งประกอบไปด้วย
- FrameBoost : เมื่อเปรียบเทียบกับการเล่นเกม PUBG เฟรมเรทมีความสเถียรเพิ่มขึ้นถึง 26.8%
- TouchBoost : พัฒนาในการตอบสนองต่อการสัมผัสไวขึ้น 34.9% และเมื่อเทียบกับ PUBG มีการตอบสนองต่อการสัมผัสที่ดีกว่าเดิม 21.6%
- GameBoost : ช่วยรีดประสิทธิภาพและความเร็วในการเล่นเกมให้ดียิ่งขึ้น
Game Space
Game Space เป็นโฟลเดอร์รวมเกมในเครื่อง ถ้าหากผู้ใช้ตั้งค่าให้ระบบเพิ่มเกมเข้ามาในโฟลเดอร์นี้โดยอัตโนมัติ หรือผู้ใช้สั่งเพิ่มเข้ามาเอง เมื่อเปิดเกมจากในโฟลเดอร์นี้ ระบบจะจัดการเคลียร์แรม รวมถึงปรับการทำงานด้านกราฟิกและการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้เหมาะสมกับการเล่นเกมมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ดี นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการตั้งค่าให้บล็อกการแจ้งเตือน ตั้งค่าล็อกระดับแสงสว่างหน้าจอ และสามารถเร่งประสิทธิภาพการประมวลผลได้จากใน Game Space
-:- ประสิทธิภาพกล้องถ่ายรูป -:-
ตัวอย่างภาพถ่าย
Normal
กล้องหลักความละเอียด 48 MP Ultra HD ด้วยเลนส์ Sony IMX586 Flagship Sensor ทำให้ภาพคมเห็นชัดทุกรายละเอียด ด้วยความสามารถในการถ่ายหลายๆ ช้อตรวมกันเป็นภาพเดียวเพื่อความคมชัดที่มากขึ้น และความละเอียดที่มากกว่าเดิมถึง 48 ล้านพิกเซล เป็นกล้องที่คุณภาพที่ดีที่สุดในสมาร์ทโฟนรุ่นราคาเดียวกัน
Super Wide-Angle 119 ํ
กล้องเลนส์ Super Wide-Angle 119 ํ เป็นกล้องที่มีความละเอียด 8 MP HD มีค่ารูรับแสงที่ f/2.2 ทำให้สามารถทำให้ถ่ายภาพได้กว้างขึ้น เก็บมุมมองต่างๆ ได้เยอะขึ้น อีกทั้งยังทำให้ภาพที่เราถ่ายนั้นดูมีมิติมากขึ้นในหลายมุมมอง
Ultra Nightscape
โหมด Ultra Clear Nightscape รูรับแสง f/1.8 เพิ่มความสว่างของแสงได้อย่างเป็นธรรมชาติ ลดนอยส์ได้เป็นอย่างดี โดยการถ่ายโหมดกลางคืนนี้จะใช้เวลาที่สั้นลงเพียง 2-3 วินาทีเท่านั้น ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องรอเวลานานเกินไป ดังนั้นจึงทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยนั้นมีความคมชัดขึ้นมาทันตาเห็น
Chroma Boost
Chroma boost สามารถช่วยให้การถ่ายภาพแต่ละภาพนั้นออกมามีสีสันที่สดใสและคมชัด อีกทัังยังสามารถดึงความสวางในส่วนที่มืดออกมาได้เป็นอย่างดีด้วยระบบอัจฉริยะ AI จึงทำให้ภาพสมจริงในทุกรายละเอียด ซึ่งเหนือกว่า vivid โหมดและฟิลเตอร์ตามมือถือปกติทั่วไป
Portrait
กล้อง Portrait ความละเอียด 2 MP HD ค่ารูรับแรงที่ f/2.4 สามารถให้ผู้ใช้งานปรับความสวยงามได้อย่างตามใจชอบ อีกทั้งยังมี AI เข้ามาช่วยในเรื่องของการปรับแสง สีผิวให้ดูอย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงการตัดขอบของวัตถุนั้นยังทำออกมาได้ดีด้ยเช่นกัน อีกทั้งยังทำให้ภาพถ่ายนั้นดูคมและมีมิติสมจริงมากขึ้น
Super Macro 4 cm.
กล้องเลนส์ Super macro 4 cm. ความละเอียด 2 MP HD พร้อมกับรูรับแสงขนาดใหญ่ f/2.4 ทำให้ได้ภาพละเอียดระดับ 1.75 μm big pixel สามารถจับภาพได้ชัดทุกลายละเอียด แม้กระทั่งแมลงหรือดอกไม้ที่เล็กๆ
Selfies
กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 MP ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.2 ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471 สามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะมี AI Beauty เข้ามาช่วยในเรื่องของการแบ่งเพศและวัยได้ และสามารถถ่าย Selfie Portrait ได้อีกด้วย ทำให้การถ่ายเซลฟี่นั้นดูมีความน่าใช้งานและสนุกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมี AI HDR มาช่วยในเรื่องของการถ่ายเซลฟี่ในสถานการณ์ที่มีการย้อนแสง ทำให้หน้าของเรานั้นไม่ดำและเห็นรายละเอียดชัดเจน
สรุป
realme 5 Pro เป็นสมาร์ทตัวแรกแรกจาก realme ที่มาพร้อมกับกล้องหลังถึง 4 ตัว และมีสเปคที่ดีที่สุดที่มาสร้างมาตรฐานใหม่ในเรทราคาระดับเดียวกัน ที่เหมาะกับการใช้งานของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน วันไหน ก็สามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังมีหน้าจอและดีไซน์ที่สวย มีกล้องหลังที่มีความละเอียดถึง 48 ล้านพิกเซล ทำให้ถ่ายภาพออกมาได้อย่างคมชัดทุกรายละเอียด รวมถึงเลนส์ Super Wide-Angle 119 ํ ที่ทำให้ถ่ายภาพเก็ยวิวทิวทัศน์และบรรยากาศต่างๆ ได้อย่างกว้างทุกมุมมอง ส่วนในเรื่องของการเล่นเกมนั้น แน่นอนว่าย่อมเป็นที่คาดหวังของใครหลายๆ คน ดังนั้นแล้วไม่ต้องผิดหวังครับ เนื่องจาก realme 5 Pro นั้นมาพร้อมกับ CPU Qualcomm Snapdragon 712 AIE ที่ช่วยให้การประมวลในการเล่นเกมนั้นดีขึ้นมาก อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่คอยซัพพอร์ทให้กับเหล่าเกมเมอร์ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ Game Space และ Hyper Boost ที่ทำให้ไม่มีปัญหาในการเล่นเกมอีกต่อไป เพราะทั้งสองอย่างนี้ช่วยมาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการเล่นเกมได้อย่างราบลื่นขึ้น แบะยังช่วยลดการหน่วงในการสัมผัส ลดการรบกวนการแจ้งเตือน การรักษาเฟรมเรทขณะเล่นได้ดียิ่งขึ้น
และอีกอย่างหนึ่งที่ไม่พูดไม่ได้เลยคือเรื่องของแบตเตอรี่ realme 5 Pro ที่มีความอึดมากๆ สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน เนื่องจากได้ realme 5 Pro นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 4035 mAh. และผนวกเข้ากับ CPU Qualcomm Snapdragon 712 AIE ที่มีขนาดสถาปัตยกรรมขนาด 10 nm. จึงทำให้การจัดการทรัพยากรณ์ต่างๆ ของเครื่องไม่กินแบตจนเกินไป และทำให้สามารถเล่นได้ยาวนานต่อเนื่องแบบไม่ต้องหวงว่าแบตจะหมดเมื่อใด แต่ถ้าหากแบตใกล้หมดหรือหมดแล้ว ก็ยังสามารถชาร์จไฟให้เต็มได้อย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีการชาร์จไวแบบ Type-C 20W (VOOC Flash Charge 3.0) โดยใช้เวลาในการชาร์จ 1 ชั่วโมงพร้อมกับเล่นเกม แบตเตอรี่เพิ่มถึง 43% และชาร์จ 1.38 ชั่วโมง แบตเตอรี่เต็ม 100%
ทั้งนี้สมาร์ทโฟน realme 5 Pro จะมีวางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Sparkling Blue และสีเขียว Crystal Green โดยมีราคาวางจำหน่ายเริ่มต้นที่ 7,999 บาท สำหรับรุ่นความจุ RAM 4GB ROM 128GB และราคา 8,999 บาท สำหรับรุ่นความจุ RAM 8GB และ ROM 128GB สามารถพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 3-13 กันยายน 2562 และเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 กันยายน 2562 นี้เป็นต้นไป
จุดเด่น
- หน้าจอดีไซน์ทรงหยดน้ำที่สวยงามขนาด 6.3 นิ้ว แบบ FHD+ ที่มีความคมชัดมากกว่าเดิม
- การออกแบบดีไซน์ฝาหลังที่มีความเป็นเอกลักษณ์ Holographic Diamond ทำให้เกิดการสะท้อนและเป็นประกายสวยงาม
- มีชิปประมวลผลตัวล่าสุดอย่าง Qualcomm Snapdragon 712 AIE ที่มีประสิทธภาพมากกว่าเดิมถึง 35 เปอร์เซ็น
- มีแบตเตอรี่ถึง 4035 mAh. มีความอึดต่อการใช้งานพอสมควร และมาพร้อมกับเทคโนโลยีการชาร์จไวขนาด 20W VOOC Flash Charge 3.0
- เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในเรทราคาเดียวกันที่มาพร้อมกับกล้องหลังถึง 4 ตัว ด้วยกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล Ultra HD ด้วยเซ็นเซอร์ Sony IMX586, พร้อมกับกล้องพิเศษอีก 3 ตัว กล้องเลนส์ Portrait, กล้องเลนส์ Super Wide-Angle 119 ํ และเทคโนโลยีล่าสุดเลนส์ Macro
- มีกล้องหน้าความละเอียด 16 MP HD ที่มีความคมชัด บวกกับ AI Beauty และ AI HDR ทำให้ถ่ายภาพออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- มาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM 8GB และ ROM 128GB สามารถเพิ่ม micro sd card ได้ถึง 256GB
- รันด้วยระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.0
ข้อควรพิจารณา
- บอดี้ของตัวเครื่องเป็นรอยนิ้วมือง่าย (แต่ก็แก้ไขด้วยการเอาผ้าเช็ดก็หมดปัญหานี้ไป หรือใส่เคสที่แถมมาให้ก็ช่วยได้ดี)
Super Wide-Angle 119 ํ
กล้องเลนส์ Super Wide-Angle 119 ํ เป็นกล้องที่มีความละเอียด 8 MP HD มีค่ารูรับแสงที่ f/2.2 ทำให้สามารถทำให้ถ่ายภาพได้กว้างขึ้น เก็บมุมมองต่างๆ ได้เยอะขึ้น อีกทั้งยังทำให้ภาพที่เราถ่ายนั้นดูมีมิติมากขึ้นในหลายมุมมอง
Ultra Nightscape
โหมด Ultra Clear Nightscape รูรับแสง f/1.8 เพิ่มความสว่างของแสงได้อย่างเป็นธรรมชาติ ลดนอยส์ได้เป็นอย่างดี โดยการถ่ายโหมดกลางคืนนี้จะใช้เวลาที่สั้นลงเพียง 2-3 วินาทีเท่านั้น ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องรอเวลานานเกินไป ดังนั้นจึงทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยนั้นมีความคมชัดขึ้นมาทันตาเห็น
Chroma boost สามารถช่วยให้การถ่ายภาพแต่ละภาพนั้นออกมามีสีสันที่สดใสและคมชัด อีกทัังยังสามารถดึงความสวางในส่วนที่มืดออกมาได้เป็นอย่างดีด้วยระบบอัจฉริยะ AI จึงทำให้ภาพสมจริงในทุกรายละเอียด ซึ่งเหนือกว่า vivid โหมดและฟิลเตอร์ตามมือถือปกติทั่วไป
กล้อง Portrait ความละเอียด 2 MP HD ค่ารูรับแรงที่ f/2.4 สามารถให้ผู้ใช้งานปรับความสวยงามได้อย่างตามใจชอบ อีกทั้งยังมี AI เข้ามาช่วยในเรื่องของการปรับแสง สีผิวให้ดูอย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงการตัดขอบของวัตถุนั้นยังทำออกมาได้ดีด้ยเช่นกัน อีกทั้งยังทำให้ภาพถ่ายนั้นดูคมและมีมิติสมจริงมากขึ้น
กล้องเลนส์ Super macro 4 cm. ความละเอียด 2 MP HD พร้อมกับรูรับแสงขนาดใหญ่ f/2.4 ทำให้ได้ภาพละเอียดระดับ 1.75 μm big pixel สามารถจับภาพได้ชัดทุกลายละเอียด แม้กระทั่งแมลงหรือดอกไม้ที่เล็กๆ
Chroma Boost
Chroma boost สามารถช่วยให้การถ่ายภาพแต่ละภาพนั้นออกมามีสีสันที่สดใสและคมชัด อีกทัังยังสามารถดึงความสวางในส่วนที่มืดออกมาได้เป็นอย่างดีด้วยระบบอัจฉริยะ AI จึงทำให้ภาพสมจริงในทุกรายละเอียด ซึ่งเหนือกว่า vivid โหมดและฟิลเตอร์ตามมือถือปกติทั่วไป
Portrait
Super Macro 4 cm.
Selfies
กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 MP ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.2 ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471 สามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะมี AI Beauty เข้ามาช่วยในเรื่องของการแบ่งเพศและวัยได้ และสามารถถ่าย Selfie Portrait ได้อีกด้วย ทำให้การถ่ายเซลฟี่นั้นดูมีความน่าใช้งานและสนุกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมี AI HDR มาช่วยในเรื่องของการถ่ายเซลฟี่ในสถานการณ์ที่มีการย้อนแสง ทำให้หน้าของเรานั้นไม่ดำและเห็นรายละเอียดชัดเจน
สรุป
realme 5 Pro เป็นสมาร์ทตัวแรกแรกจาก realme ที่มาพร้อมกับกล้องหลังถึง 4 ตัว และมีสเปคที่ดีที่สุดที่มาสร้างมาตรฐานใหม่ในเรทราคาระดับเดียวกัน ที่เหมาะกับการใช้งานของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน วันไหน ก็สามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังมีหน้าจอและดีไซน์ที่สวย มีกล้องหลังที่มีความละเอียดถึง 48 ล้านพิกเซล ทำให้ถ่ายภาพออกมาได้อย่างคมชัดทุกรายละเอียด รวมถึงเลนส์ Super Wide-Angle 119 ํ ที่ทำให้ถ่ายภาพเก็ยวิวทิวทัศน์และบรรยากาศต่างๆ ได้อย่างกว้างทุกมุมมอง ส่วนในเรื่องของการเล่นเกมนั้น แน่นอนว่าย่อมเป็นที่คาดหวังของใครหลายๆ คน ดังนั้นแล้วไม่ต้องผิดหวังครับ เนื่องจาก realme 5 Pro นั้นมาพร้อมกับ CPU Qualcomm Snapdragon 712 AIE ที่ช่วยให้การประมวลในการเล่นเกมนั้นดีขึ้นมาก อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่คอยซัพพอร์ทให้กับเหล่าเกมเมอร์ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ Game Space และ Hyper Boost ที่ทำให้ไม่มีปัญหาในการเล่นเกมอีกต่อไป เพราะทั้งสองอย่างนี้ช่วยมาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการเล่นเกมได้อย่างราบลื่นขึ้น แบะยังช่วยลดการหน่วงในการสัมผัส ลดการรบกวนการแจ้งเตือน การรักษาเฟรมเรทขณะเล่นได้ดียิ่งขึ้น
และอีกอย่างหนึ่งที่ไม่พูดไม่ได้เลยคือเรื่องของแบตเตอรี่ realme 5 Pro ที่มีความอึดมากๆ สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน เนื่องจากได้ realme 5 Pro นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 4035 mAh. และผนวกเข้ากับ CPU Qualcomm Snapdragon 712 AIE ที่มีขนาดสถาปัตยกรรมขนาด 10 nm. จึงทำให้การจัดการทรัพยากรณ์ต่างๆ ของเครื่องไม่กินแบตจนเกินไป และทำให้สามารถเล่นได้ยาวนานต่อเนื่องแบบไม่ต้องหวงว่าแบตจะหมดเมื่อใด แต่ถ้าหากแบตใกล้หมดหรือหมดแล้ว ก็ยังสามารถชาร์จไฟให้เต็มได้อย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีการชาร์จไวแบบ Type-C 20W (VOOC Flash Charge 3.0) โดยใช้เวลาในการชาร์จ 1 ชั่วโมงพร้อมกับเล่นเกม แบตเตอรี่เพิ่มถึง 43% และชาร์จ 1.38 ชั่วโมง แบตเตอรี่เต็ม 100%
ทั้งนี้สมาร์ทโฟน realme 5 Pro จะมีวางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Sparkling Blue และสีเขียว Crystal Green โดยมีราคาวางจำหน่ายเริ่มต้นที่ 7,999 บาท สำหรับรุ่นความจุ RAM 4GB ROM 128GB และราคา 8,999 บาท สำหรับรุ่นความจุ RAM 8GB และ ROM 128GB สามารถพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 3-13 กันยายน 2562 และเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 กันยายน 2562 นี้เป็นต้นไป
จุดเด่น
- หน้าจอดีไซน์ทรงหยดน้ำที่สวยงามขนาด 6.3 นิ้ว แบบ FHD+ ที่มีความคมชัดมากกว่าเดิม
- การออกแบบดีไซน์ฝาหลังที่มีความเป็นเอกลักษณ์ Holographic Diamond ทำให้เกิดการสะท้อนและเป็นประกายสวยงาม
- มีชิปประมวลผลตัวล่าสุดอย่าง Qualcomm Snapdragon 712 AIE ที่มีประสิทธภาพมากกว่าเดิมถึง 35 เปอร์เซ็น
- มีแบตเตอรี่ถึง 4035 mAh. มีความอึดต่อการใช้งานพอสมควร และมาพร้อมกับเทคโนโลยีการชาร์จไวขนาด 20W VOOC Flash Charge 3.0
- เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในเรทราคาเดียวกันที่มาพร้อมกับกล้องหลังถึง 4 ตัว ด้วยกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล Ultra HD ด้วยเซ็นเซอร์ Sony IMX586, พร้อมกับกล้องพิเศษอีก 3 ตัว กล้องเลนส์ Portrait, กล้องเลนส์ Super Wide-Angle 119 ํ และเทคโนโลยีล่าสุดเลนส์ Macro
- มีกล้องหน้าความละเอียด 16 MP HD ที่มีความคมชัด บวกกับ AI Beauty และ AI HDR ทำให้ถ่ายภาพออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- มาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM 8GB และ ROM 128GB สามารถเพิ่ม micro sd card ได้ถึง 256GB
- รันด้วยระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.0
ข้อควรพิจารณา
- บอดี้ของตัวเครื่องเป็นรอยนิ้วมือง่าย (แต่ก็แก้ไขด้วยการเอาผ้าเช็ดก็หมดปัญหานี้ไป หรือใส่เคสที่แถมมาให้ก็ช่วยได้ดี)